สรุปวิชา มนุษย์กับสังคม
โดย อาจารย์เทวมินทร์ แสงดาว
******************
บทที่ 1
- มนุษย์ แปลว่า ผู้มีใจสูง (สูงด้วยคุณธรรม)
- ศีล 5 ธรรม 5 ทำให้เกิดเป็นมนุษย์และเป็นมนุษย์ที่แท้สมบูรณ์
- ตามแนวสังคมศาสตร์ มนุษย์ คือ สัตว์โลกที่มีชีวิตชนิดหนึ่ง
- มนุษย์ มีวัฒนธรรมจึงแตกต่างจากสัตว์
- การศึกษาเกี่ยวกับมนุษย์ในทางสังคมศาสตร์ มี 9 สาขา เช่น ประวัติศาสตร์ สังคมวิทยา
- สังคมศาสตร์ คือ ศาสตร์ว่าด้วยความรู้เกี่ยวกับสังคม
- พุทธศาสตร์ กล่าวกำเนิดมนุษย์ไว้ในอัคคัญญสูตร สูตรว่าด้วย ต้นกำเนิดของโลก
- อัคคัญญสูตร กำเนิดคุณสมบัติของบุคคลที่จะเป็นหัวหน้าไว้ 4 ประการ
- พุทธศาสตร์ กำเนิดมนุษย์(สัตว์) มี 4 ประเภท คือ 1 ชลาพุชะ 2 อัณฑชะ 3 สังเสทชะ 4 โอปปาติกะ
- มนุษย์จะกำเนิดขึ้นได้ต้องครบองค์ 3 คือ 1 มารดาบิดาร่วมประเวณีกัน 2 มารดามีประจำเดือน 3 มีสัตว์มาเกิด
- ชาลล์ ดาร์วิน เจ้าของทฤษฎี “กำเนิดสิ่งมีชีวิต” ซึ่งขัดกับศาสนาคริสต์อย่างสิ้นเชิง
- มนุษย์โฮโมแซเปียนส์ เป็นเผ่าพันธุ์ของมนุษย์ในยุคปัจจุบัน
- พระพุทธศาสนา องค์ประกอบของมนุษย์ ได้แก่ ขันธ์ 5 ธาตุ 4
- มนุษย์(ตามพระพุทธศาสนา)มี 4 ชนิด คือ 1 มนุษย์นรก 2 มนุษย์เปรต 3 มนุษย์เดียรัจฉาน 4 มนุษย์เทวดา
- มนุษย์ในปัจจุบัน มีลักษณะต่างจากสัตว์ 15 อย่าง เช่น มีสมองใหญ่ มีตัวตรง เดิน 2 ขา
- อุปสรรคของการเป็นมนุษย์ตามแนวพุทธ คือ พฤติกรรม 10 (กิเลส 10)
- พุทธเปรียบชีวิตมนุษย์ไว้เหมือน 7 สิ่ง
บทที่ 2
- สังคม หมายถึง กลุ่มคนที่มาอยู่รวมกันโดยยอมรับแบบแผนและกฎเกณฑ์ของกลุ่มร่วมกันในการดำเนินชีวิต มีองค์ประกอบและหน้าที่หลายประการที่จะทำให้สังคมดำรงอยู่ได้
- สังคม / Socciety
- สังคมมนุษย์ เกิดจากเหตุผลที่มนุษย์ต้องรวมตัวกันอยู่เป็นกลุ่มก็เพราะมนุษย์ต้องพึงพาอาศัยกันในการดำรงชีพ เพื่อช่วยกันผลิตอาหารหรือช่วยกันป้องกันการรุกรานของมนุษย์ด้วยกัน
- อริสโตเติล เป็นเจ้าของคำพูดที่ว่า “ มนุษย์เป็นสัตว์สังคม” เพราะมนุษย์ไม่สามารถอยู่โดดเดี่ยวในโลกได้
- องค์ประกอบของสังคม มี 6 อย่าง เช่น 1 มีอาณาเขตที่แน่นอน
- ประเภทของสังคม มี 6 ประเภท เช่น 1 แบ่งตามความเจริญของเศรษฐกิจ
- สาเหตุที่ทำให้เกิดสังคมมนุษย์ 8 อย่าง เช่น 1 แรงขับดันทางธรรมชาติ เช่น หิว
- หน้าที่ของสังคมมนุษย์ มี 2 ประเภท คือ 1 หน้าที่ทั่วไป 2 หน้าที่เฉพาะของสังคม
- ชีวิตมนุษย์ในสังคมจะไม่สามารถเกิดขึ้นได้ หากสังคมนั้นปราศจากความยุติธรรม(2 มาตรฐาน)
- โครงสร้างของสังคม มี 3 อย่าง คือ 1 องค์การสังคม 2 สถาบันทางสังคม 3 วัฒนธรรม
- โครงสร้างของสังคม เกิดจากคนสองคนขึ้นไปมีปฏิสัมพันธ์กัน
- วัฒนธรรม ทำให้มนุษย์ดำรงเผ่าพันธุ์มาจนถึงปัจจุบัน
บทที่ 5
- พฤติกรรม(Behavior) หมายถึง กิริยาอาการที่มนุษย์และสัตว์เดรัจฉานแสดงออกมา อาจมองเห็นหรือไม่เห็น
- พฤติกรรม มี 2 ประเภท คือ 1 พฤติกรรมภายนอก 2 พฤติกรรมภายใน
- รูปแบบพฤติกรรม มี 3 รูปแบบ คือ 1 ปกติ 2 ไม่ปกติ 3 เบี่ยงเบน
- ความแตกต่างระหว่างบุคคล หมายถึง ความไม่เหมือนกันของบุคคล เพราะแต่ละบุคคลจะมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว
- สาเหตุทำให้บุคคลมีความแตกต่างกัน 3 อย่าง คือ 1 พันธุกรรม 2 สิ่งแวดล้อม 3 กรรม (การกระทำ)
- บุคคลแตกต่างกัน 7 ด้าน คือ 1 ร่างกาย 2 สติปัญญา 3 อารมณ์ 4 สังคม 5 เพศ 6 ความถนัด 7 ค่านิยม
- IQ (Intelligence Quotiet) หมายถึง ความฉลาดทางสติปัญญา
- EQ(Emotional Quotiet) หมายถึง ความฉลาดทางอารมณ์
- วิลเลียม สเติร์น คือ ผู้คิดสูตร IQ
- IQ ต่างกันเบ่งบอกความฉลาดต่างกัน
- ทฤษฎีกับพฤติกรรมของมนุษย์ เช่น 1 ทฤษฎีแรงผลักดันพฤติกรรม (มนุษย์เกิดมาพร้อมกับความต้องการและความต้องการทำให้เกิดแรงขับ) มี 8 ขั้นตอน 2. ทฤษฎีความต้องการของอับราฮัม มาสโลว์(พฤติกรรมของมนุษย์เกิดจากความต้องการภายในทั้งสิ้น) มี 4 ขั้นตอน
- ID , Ego และ Superego เป็นทฤษฎีของ ซิกมุนด์ ฟรอยด์
- ธรรมชาติของมนุษย์ คือ สิ่งที่เราจะต้องศึกษาให้เข้าใจถึงสถาพความเป็นมนุษย์และยอมรับกลไกของธรรมชาติของมนุษย์
- ธรรมชาติของมนุษย์ มี 6 ทฤษฎี คือ 1 ปรัชญา 2 จิตวิทยา 3 สังคมวิทยา 4 วิทยาศาสตร์ 5 การจูงใจในการบริหาร 6 พุทธศาสตร์
- ทฤษฎี X , Y เจ้าของทฤษฎีคือ แมคเกรเกอร์
- ทฤษฎี Z เจ้าของทฤษฎี คือ เร็ดดิน
- ปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อพฤติกรรมมนุษย์มี 2 อย่าง คือ 1 พันธ์กรรม 2 สิ่งแวดล้อม
บทที่ 6
- การพัฒนาตนเอง หมายถึง การกระทำเพื่อความเจริญส่วนตนซึ่งเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้น
- พฤติกรรมหลักของมนุษย์ คือ เข้าข้างตนเองอยู่เสมอ
- การพัฒนาตนมีจุดประสงค์ 3 อย่าง 1 เพิ่มพูนองค์ความรู้ 2 เพิ่มพูนทักษะและประสบการณ์ 3 ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมหรือเจตคติ
- ความสำคัญและความจำเป็นในการพัฒนาตนเอง มี 5 ข้อ
- จุดหมายของการพัฒนาตนเอง มี 4 ด้าน คือ 1 ปัญญา 2 จิตใจ 3 สังคม 4 ร่างกาย
- ทฤษฎีในการพัฒนาตนเอง มี 5 ทฤษฎี คือ 1 พุทธศาสนา 2 การสร้างเสน่ห์ 3 ตามทัศนะของขงจื้อ(ลิงสามตัว) 4 หลักการปฏิบัติตนให้ผู้อื่นชอบตนเอง 5 ทฤษฎีตนเอง (ตนตามที่ตนมองเห็น,ตนตามเป็นจริง และตนตามอุดมคติ)
- ผู้นำ คือ บุคคลที่ทำให้องค์กรประสบความก้าวหน้าและบรรลุความสำเร็จ
- ผู้ตาม คือ ผู้ซึ่งเป็นตัวจักรสำคัญของการผลิตงาน เป็นผู้ปฏิบัติ
- ประโยชน์ของการพัฒนาตน มี 9 อย่าง
บทที่ 7
- ปฏิสัมพันธ์ / Social Interaction หมายถึง ข้อผูกพันที่มีต่อกันทางสังคมที่เหมือนกันและแตกต่างกันของบุคคลตั้งแต่ 2 คนขึ้นไปในสังคม
- ปฏิสัมพันธ์ระหว่างบุคคลกับสังคมมี 4 อย่าง
- ทฤษฎีการปฏิสัมพันธ์ทางสังคม มี 4 ทฤษฎี คือ 1. ทฤษฎีขงจื้อ(สังคมคุณธรรม) 2. พุทธศาสตร์ (ทิศ 6) 3. สังคมวิทยา(ปฐมภูมิ,ทุติยภูมิ) 4. ทฤษฎีอีริก เบิร์น( P, Aและ C )
- ปฏิสัมพันธ์ตามแนวการจัดระเบียบ มี 4 ประเภท คือ 1. บรรทัดฐาน 2. สถานภาพ 3. บทบาท 4 ชนชั้น
- บทบาท คือ การแสดงตนตามสถานภาพ
- ชนชั้น มี 5 ประเภท คือ 1. พระมหากษัตริย์ 2. พระราชวงศ์หรือเจ้านาย 3. ขุนนางหรือข้าราชการ 4. พระสงฆ์ 5. ราษฎร
- ประโยชน์ของปฏิสัมพันธ์ทางสังคม มี 10 อย่าง (หน้า 205)
- ปฏิสัมพันธ์ทางสังคม มี 2 ระดับ คือ 1.จุลภาค(จำกัดจำนวนสมาชิกและอาณาบริเวณ เช่น หมู่บ้าน ) 2. มหัพภาค (กว้างขวางและเป็นสากล เช่น ชาติ ,โลก)
บทที่ 8
- สถาบัน หมายถึง แบบอย่างทางพฤติกรรม คือ แหล่งสำหรับหล่อหลอมหรือขัดเกลาวิถีชีวิตกรอบปฏิบัติ และมีวัฒนธรรมประเพณีสืบต่อกันมาอย่างเป็นระบบ
- สถาบัน มี 2 ประเภท คือ 1. สถาบันที่เป็นรูปธรรม(เช่น สมาคม ) 2. สถาบันที่เป็นนามธรรม (เช่น กฎระเบียบ)
- สถาบันสังคม เกิดจากกลุ่มบุคคลเป็นสมาชิกร่วมอยู่และมีวิถีชีวิตดำเนินไปด้วยกัน
- สถาบันสังคม หมายถึง รูปแบบบรรทัดฐานที่จัดตั้งขึ้นมาอย่างมีระบบเพื่อความมั่นคงแห่งสังคมมนุษย์
- สถาบันสังคม มี 4 ลักษณะ คือ 1. เป็นแบบแผน 2. เป็นมาตรฐาน 3. แก้ปัญหาสังคม 4. ทำให้สังคมคงสภาพอยู่
- สถาบันสังคม มีองค์ประกอบ 4 อย่าง คือ 1. องค์การทางสังคม (เป็นตัวแทนทำหน้าที่ของสถาบัน) 2. สถานภาพแลบทบาท 3. การทำหน้าที่ 4. บรรทัดฐานทางสังคม
- ประเภทของสถาบันทางสังคม มี 6 อย่าง เช่น 1. สถาบันครอบครัว
- หน้าที่ของสถาบันสังคม มี 9 อย่าง เช่น 1 ผลิตสมาชิกใหม่ให้แก่สังคม
บทที่ 9
- ประชาสังคม หมายถึง การรวมตัวของประชาชนจากทุกส่วนของสังคมจำนวนหนึ่ง ที่มีความคิดมีจิตสำนึกร่วมกัน มีอุดมการณ์ร่วมกันในบางเรื่อง
- ประชาสังคม เกิดจากความต้องการเห็นสังคมเข้มแข็ง
- องค์ประกอบของประชาสังคม มี 7 อย่าง เช่น 1. มีวิสัยทัศน์ร่วมกัน
- สาเหตุของการเกิดประชาสังคม มี 4 อย่าง คือ 1. วิกฤติในสังคม 2. การก่อกำเนิดและการขยายตัวของชนชั้นกลาง 3. กระบวนการพัฒนาประชาธิปไตย 4. ระบบการติดต่อสื่อสาร
- กระบวนการทางสังคม ก็คือ การเปลี่ยนแปลงทางสังคมที่เปลี่ยนแปลงอย่างมีระบบไปสู่ผลอย่างหนึ่ง ฯ มี 4 ขั้นตอน คือ 1. การเกิดจิตสำนึก 2. การเกิดขององค์กรสังคม 3. การก่อรูปของอุดมการณ์ร่วมของสังคม 4. การตกผลึกเป็นสถาบันของอุดมการณ์สังคม
- ทฤษฎีประชาสังคม มี 4 ทฤษฎี ทุกทฤษฎีเน้นหลักการบริหารธรรมาภิบาล ทำให้สังคมอยู่ร่วมกันอย่างอยู่เย็นเป็นสุข
- ทุนทางสังคม มี 3 อย่าง คือ 1. ทุนมนุษย์ 2. ทุนสถาบัน 3. ทุนทางปัญญาและวัฒนธรรม
- บวร ย่อมาจาก บ. – บ้าน ว.- วัด และ ร.-โรงเรียน
บทที่ 10
- ธรรมาภิบาล หมายถึง การปกครอง หรือบริหารจัดการที่ดี
- ธรรมาภิบาล ตรงกับคำว่า Good Govrernance มีแนวทางบริหารอยู่ 3 ประเภท คือ 1. การบริหารมุ่งประชาชน 2. การปรับเปลี่ยนบทบาทภาครัฐ 3. การบริหารมุ่งผลสัมฤทธิ์
- ธรรมาภิบาลของไทยมุ่งเน้น 4 ด้าน คือ 1. ความมั่นคง 2. พัฒนาเศรษฐกิจและสังคม 3. แก้วิกฤติให้เป็นโอกาส 4.ยกระดับประเทศให้ทัดเทียมนานาประเทศ
- ผู้เริ่มใช้คำว่า ธรรมาภิบาลคนแรกของไทย คือ อ.ธีรยุทธ บุญมี
- ธรรมาภิบาล ต้องมี 3 ส่วนร่วมกัน คือ 1. ภาคธุรกิจเอกชน 2. ภาคประชาสังคม 3. ภาครัฐ
- ธนาคารโลก คือผู้ใช้คำว่า Good Govrernance ครั้งแรก
- องค์ประกอบของธรรมาภิบาลแบบสากล มี 6 หลัก คือ 1. หลักคุณธรรม 2. การมีส่วนร่วม 3. ความรับผิดชอบ
4. ความคุ้มค่า 5. ความโปร่งใส 6. นิติธรรม
- หลักธรรมาภิบาลเชิงพุทธ คือ ทศพิธราชธรรม อคติ 4 จักรวรรดิวัตร 12
- หลักการสำคัญของธรรมาภิบาล คือ 1. โปร่งใส 2. อธิบายได้ 3. ความรับผิดชอบ
- สันติภาพ หมายถึง สภาวะแห่งความสงบ /ตรงกับคำว่า Peace
- สันติภาพ มีความสำคัญต่อมนุษยชาติในฐานะที่มนุษย์เป็นสัตว์สังคมที่มีความปรารถนาในการอยู่ร่วมกันโดยปราศจากศัตรูและอุปสรรค
- สันติภาพ มี 2 ชนิด คือ สันติภาพภายนอก และ สันติภาพภายใน(ความสงบจากศีล สมาธิ ปัญญา)
- หลักสันติภาพเชิงพุทธ เช่น พรหมวิหาร 4 สังคหวัตถุ 4
- องค์กรที่เกี่ยวกับสันติภาพ คือ องค์กรสหประชาชาติ(UN)
- สิ่งที่สร้างความสุขให้กับมนุษย์ตามแนวพุทธมี 7 อย่าง คือ 1 อายุ 2. ทรัพย์ 3. ศักดิ์ศรี 4. ยศ 5. กำลัง(ความมั่นคง) 6. ชื่อเสียง 7. ความสุข(ความสะดวกสบาย)
- สิ่งที่จะนำความขัดแย้งไปสู่สันติภาพ คือตัวแปร 2 อย่าง 1. ศาสนา 2. ปรัชญา
- สันติภาพทำให้สังคมเกิดความสุข
บทที่ 11
- วัฒนธรรม เป็นตัวนำแนวทางการดำเนินชีวิตของคนในสังคมและกำหนดแบบแผนพฤติกรรมการปฏิบัติ
- วัฒนธรรม เป็นรากฐานของการดำรงชีวิตและความเป็นอยู่ของมนุษย์
- วิวัฒนาการของวัฒนธรรม แบ่งเป็น 2 ยุค คือ ยุคก่อนประวัติศาสตร์ และยุคประวัติศาสตร์
- วัฒนธรรม หมายถึง ทุกสิ่งทุกอย่างที่แสดงออกถึงวิถีชีวิตของมนุษย์ในสังคมในโลกนี้
- มนุษย์สร้างวัฒนธรรมเพื่อประโยชน์ในการดำเนินชีวิต
- วัฒนธรรมมี 2 ประเภท คือ 1.วัฒนธรรมทางวัตถุ 2. วัฒนธรรมไม่ใช้วัตถุ( ภาษา ความเชื่อ เป็นต้น)
- องค์ประกอบของวัฒนธรรม มี 4 อย่าง คือ 1. องค์วัตถุ(สสารและอสสาร) 2. องค์การ ( เช่น ครอบครัว) 3. องค์พิธีการ( เช่น พิธีกรรม) 4. องค์มติ (ความเชื่อต่างๆ)
- ความสำคัญของวัฒนธรรม คือ เป็นเครื่องวัดความเจริญหรือความเสื่อมของสังคม
- ทุกสิ่งทุกอย่างที่มนุษย์สร้างขึ้น(ยกเว้น ธรรมชาติ) จัดเป็นวัฒนธรรมทั้งสิ้น
- ธรรมชาติของมนุษย์ คือ สิ่งที่มนุษย์ทุกยุคทุกสมัยมีอยู่เหมือนกัน คือความต้องการ 3 ประการ ได้แก่ 1. ความต้องการทางร่างกาย 2. ทางจิตใจ 3. ทางสังคม
- ที่มาของวัฒนธรรม มี 6 อย่าง เช่น 1. ความจำเป็นที่จะต้องหาเลี้ยงชีพ
- หน้าที่ของวัฒนธรรม มี 7 อย่าง เช่น 1. เป็นตัวกำหนดรูปแบบสถาบัน
- ลักษณะสำคัญของวัฒนธรรม มี 7 อย่าง เช่น 1. วัฒนธรรมเป็นพฤติกรรมที่เกิดจากการเรียนรู้
- วัฒนธรรมหลักของไทย มี 9 อย่าง เช่น 1. พระพุทธศาสนา 2. สถาบันพระมหากษัตริย์
- สิ่งที่ทำให้สังคมมีวัฒนธรรมที่แตกต่างกัน 2 อย่าง 1. ความคิดเห็นและการมองโลกต่างกัน 2. สภาพแวดล้อมทางภูมิศาสตร์ต่างกัน
- การบวนการทางสังคม (การเปลี่ยนแปลงทางสังคม) หมายถึง การกระทำใด ๆก็ตามที่ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในสิ่งใดสิ่งหนึ่งขึ้นอย่างมีระเบียบเป็นขั้นตอน
- กระบวนการทางสังคมและวัฒนธรรม มี 5 อย่าง คือ 1. การเลียนแบบ 2. การผสมผสาน-ประนีประนอม 3. ความร่วมมือกัน 4. การแข่งขัน 5. ความขัดแย้ง
- สังคมและวัฒนธรรมเป็นสิ่งที่แยกกันไม่ออก
- ผลของกระบวนทางสังคมและวัฒนธรรมมีทั้งผลบวกและผลลบ
- ปัจจัยที่ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงทางสังคมและวัฒนธรรม มี 2 อย่าง คือ 1. ปัจจัยภายนอก 2. ปัจจัยภายใน(เกิด /ตาย/ย้ายถิ่นฐาน)
- สาเหตุของการเปลี่ยนแปลงทางสังคมและวัฒนธรรม มี 6 อย่าง เช่น 1. เทคโนโลยี 2. อุดมการณ์
- ยุคโลกาภิวัตน์ทำให้เกิด 4 สิ่ง คือ 1.ความเห็นแก่ตัว 2. ทุจริตคอรัปชั่น 3. อาชญากรรม 4. สิ่งแวดล้อมเป็นพิษ
- ศาสนาต่างๆ ย่อมเป็นบ่อเกิดแห่งวัฒนธรรมของมนุษยชาติ
บทที่ 12
- สังคมไทยเป็นสังคมแห่งศาสนาและวัฒนธรรม
- สังคมไทยมีสถาบันหลัก 3 สถาบัน คือ ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
- สังคมไทย แบ่งออกเป็น 2 ลักษณะ คือ 1.สังคมชนบท 2. สังคมเมือง
- ปัญหาสังคม หมายถึง สภาวการณ์ที่เลวร้ายมีพิษเป็นภัยไม่สอดคล้องกับค่านิยม เป็นผลกระทบต่อคนเป็นจำนวนมาก คุกคามก่ออันตรายเสียหายแก่สังคม
- ลักษณะของปัญหาสังคม มี 9 อย่าง เช่น 1. มีผลกระทบต่อคนจำนวนมาก
- ที่มีของปัญหาสังคม มี 3 อย่าง คือ 1. มนุษย์ 2. ธรรมชาติ 3. มนุษย์และธรรมชาติ(เช่น การสร้างเขื่อน)
- ประเภทของปัญหาสังคม มี 2 อย่าง 1. เกิดจากการเปลี่ยนแปลงทางสังคมและเทคโนโลยีต่าง ๆ 2. เกิดจากการขาดระเบียบวินัยและจิตสำนึกของมนุษย์
- ทฤษฎีเกี่ยวกับปัญหาสังคม มี 5 ทฤษฎี เช่น 1. ทฤษฎีพยาธิทางสังคม(ขาดศีลธรรม) 2. ทฤษฎีไม่เป็นระเบียบในสังคม
- ปัญหาสังคมไทย มี 5 อย่าง เช่น 1. ปัญหายาเสพติด 2. ปัญหาความยากจน
- ปัญหาสังคมไทยตามแนวสังคมวิทยา มี 2 อย่าง คือ 1. ตัวบุคคล 2. สังคม(สถาบัน)
- การแก้ปัญหาสังคมไทยตามแนวพุทธ ด้วยหลักธรรม เช่น อริยสัจ 4 หลักทิฏฐธัมมิกประโยชน์ 4 (อุ อา กะ สะ)
บทที่ 13
- สันติวิธี ตรงกับคำว่า Non-violence
- สันติวิธี หมายถึง กระบวนการแก้ไขความรุนแรงและความขัดแย้ง
- สันติวิธีของคานธี ประกอบด้วย 3 อย่าง คือ 1. สัตยะ 2. อหิงสา 3. สัตยาเคราะห์
- สันติภาพของท่านพุทธทาสภิกขุ อยู่ที่จิตใจของมนุษย์ คือความปกติสุข / สูงสุดคือพระนิพพาน โดยมุ่งเน้นตามมรรค 8
- สันติวิธีของพระธรรมปิฎก(ป.อ.ปยุตโต) คือ หลักการแห่งการพึ่งพาอาศัยกัน โดยสาเหตุให้เกิดความขัดแย้งและสงครามก็เพราะมนุษย์มี ตัณหา มานะ ทิฐิ ในจิตของตนเอง
- สันติวิธี มี 3 ลักษณะ คือ 1. ไม่ใช่วิธีการที่เฉื่อยชาหรือยอมแพ้แต่เป็นวิธีการที่สร้างสรรค์ 2. ไม่ไช่กลยุทธ์ที่นำไปใช้ชั่วคราวแต่จะต้องใช้อย่างถาวร 3. ไม่ใช่แค่แนวทางในการแก้ปัญหาเท่านั้น แต่ยังส่งผลถึงความสำเร็จด้วย
- จุดอ่อนของสันติวิธี คือ การปฏิบัติไม่สม่ำเสมอ
- สาเหตุของความรุนแรงในสังคมไทย มี 6 ประการ เช่น 1. การขาดความยุติธรรมในสังคม
- โลกาภิวัฒน์ (Globalization) หมายถึง ความเจริญรุ่งเรืองของโลก (ในปัจจุบัน)
- ลักษณะเด่นของสังคมไทย มี 19 อย่าง เช่น 1. มีจิตใจเอื้อเฟื้อ
- วิวัฒนาการของสังคมไทย แบ่งออกเป็น 3 ระยะ คือ ยุคอดีต (เกษตรกรรม) ยุคใหม่(อุตสาหกรรม) และยุคโลกาภิวัฒน์(สังคมสารสนเทศ)
- ข้อดีของสังคมไทยยุคโลกาภิวัฒน์ คือ ทำให้มนุษย์สามารถรับรู้ข้อมูลข่าวสารได้อย่างรวดเร็ว
- ข้อเสีย 1. เกิดความเครียดมากขึ้น 2. ครอบครัวอ่อนแอ 3. ห่างจากธรรมชาติ 4. ไม่ได้ขาดแคลนมาก่อน 5. เคลื่อนไหวน้อยลง 6. วัฒนธรรมสูญพันธุ์
*********************************
ขอให้โชคดี
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น