"พุทธชยันตี" จึงมีความหมายว่าเป็นการตรัสรู้ และการบังเกิดขึ้นของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าด้วย ในปัจจุบัน พุทธชยันตียังตีความในความหมายถึงชัยชนะของพุทธศาสนาและชาวพุทธด้วยเช่นกัน
สำหรับวาระสำคัญพุทธชยันตี 2,600 แห่งการตรัสรู้ ถ้ายึดถือตามหลักการคำนวณปีพุทธศักราชแบบไทยอยู่ในช่วงระหว่างวิสาขบูชา 2554-วิสาขบูชา 2555
นายนิวัฒน์ธำรง บุญทรงไพศาล รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะกำกับดูแลสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ กล่าวว่า งานเฉลิมฉลอง "พุทธชยันตี 2,600 ปี แห่งการตรัสรู้ของพระพุทธเจ้า" ถือเป็นวาระสำคัญของชาวพุทธทั่วโลก ในประเทศต่างๆ ที่มีชาวพุทธที่เข้มแข็งได้ประกาศให้มีการเฉลิมฉลองในวาระนี้เป็นเวลา 3 ปี (2553-2555) ดังเช่นในประเทศศรีลังกา พม่า อินเดีย เป็นต้น ก็ได้มีการจัดงานเฉลิมฉลองอย่างตื่นตัวและยิ่งใหญ่
สำหรับประเทศไทยรัฐบาลเป็นเจ้าภาพในการดำเนินการจัดงานอย่างยิ่งใหญ่ มีการตั้ง คณะกรรมการอำนวยการโดยมีมหาเถรสมาคม (มส.) เป็นที่ปรึกษาและนายกรัฐมนตรีเป็นประธานกรรมการ ปลัดสำนักนายกรัฐมนตรีเป็นกรรมการและเลขานุการ และให้ของบประมาณในการดำเนินการสนับสนุนจากรัฐบาล ส่วนการจัดงานจะแบ่งเป็น 3 ลักษณะ คือ
1.ด้านการปฏิบัติบูชา มุ่งส่งเสริมการปฏิบัติธรรมสำหรับพุทธศาสนิกชนตั้งแต่ระดับครอบครัวและชุมชน โดยใช้สถานที่ที่พุทธมณฑล ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ เมือง ทองธานี สยามพารากอน
2.ด้านวิชาการ เน้นการประชุมสัมมนาทางวิชาการเกี่ยวกับพุทธประวัติ หลักธรรมคำสอนทางพระพุทธศาสนา โดยให้มหาวิทยาลัยมหา จุฬาลงกรณราชวิทยาลัย (มจร.) และมหาวิทยา ลัยมหามกุฏราชวิทยาลัย (มมร.) ดำเนินการ
3.ด้านกิจกรรม มหาเถรสมาคมได้มอบให้สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ และสำนัก งานส่งเสริมคุณธรรมจริยธรรม และความมั่นคงแห่งสถาบันชาติ พระศาสนา พระมหากษัตริย์ วัดสระเกศ ร่วมกับองค์กรเครือข่ายศาสนาเป็นหน่วยงานหลักในการกำหนดกิจกรรม
สำหรับธงตราสัญลักษณ์งานฉลองพุทธชยันตี 2,600 ปีนั้น ได้ผ่านความเห็นชอบจากมหาเถรสมาคม
ใบโพธิ์หมายถึง การตรัสรู้แห่งองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า
สีเขียวแห่งโพธิ์หมายถึง ความเจริญงอกงาม ไพบูลย์แห่งพระพุทธศาสนา
ธรรมจักรบนผืนธงชาติไทยหมายถึง สถาบันชาติ พระศาสนา พระมหากษัตริย์ ได้รองรับพระธรรมคำสั่งสอนของพระพุทธเจ้า และส่งเสริมให้เจริญรุ่งเรืองจนประเทศไทยได้กลายเป็นศูนย์กลางพระพุทธศาสนาโลก
กระหนกลายไทยชูช่อฟ้าหมายถึง ผืนแผ่นดินไทยรุ่งเรืองด้วยอารยธรรม แห่งชนชาติไทยได้เชิดชูพระธรรมคำสั่งสอนของพระพระพุทธเจ้า ให้อำนวยประโยชน์สุขแก่มวลมนุษยชาติ และจะดำรงอยู่คู่ผืนแผ่นดินไทยตราบนานเท่านาน
นายนพรัตน์ เบญจวัฒนานันท์ ผอ.สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ กล่าวว่า สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติให้จัดงานเฉลิมฉลองอย่างยิ่งใหญ่ที่พุทธมณฑล จากคณะสงฆ์ไทย และคณะสงฆ์นานาชาติ รวมทั้งจะมีการวางศิลาฤกษ์อาคารศูนย์กลางพระพุทธศาสนาโลก เพื่อประกาศการเริ่มต้นการดำเนินงานเกี่ยวกับการเป็นศูนย์กลางพระพุทธศาสนาโลกของประเทศไทยด้วย โดยมหาเถรสมาคมกำหนดให้วันสำคัญทางพระพุทธศาสนาทั้ง 3 วัน คือวันมาฆบูชา วันวิสาขบูชา และอาสาฬหบูชา เป็นกิจกรรมการฉลองพุทธชยันตี
สำหรับวันมาฆบูชา ที่จะเวียนมาถึงในวันที่ 7 มี.ค.นี้ เป็นวันสำคัญทางพระพุทธศาสนาอีกวันเนื่องจากเป็นวันที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงแสดงโอวาทปาติโมกข์แก่พระสงฆ์เป็นครั้งแรกหลังจากตรัสรู้มาแล้วเป็นเวลา 9 เดือน
ดังนั้น วันมาฆบูชาปีนี้ นอกเหนือจากเป็นวันสำคัญทางศาสนาที่ยึดถือปฏิบัติกันมาทุกปี ยังเป็นวันสำคัญที่พุทธศาสนิกชนจะได้ร่วมเฉลิมฉลองครบรอบ 2,600 ปี ที่พระพุทธองค์ได้ตรัสรู้ธรรม หรือเรียกว่า 'พุทธชยันตี' ที่พระพุทธศาสนาได้ถือกำเนิดขึ้น พุทธศาสนิกชนได้ยึดหลักคำสอนของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าตามหลักเนื้อหาที่ว่า "ทำความดี ละเว้นความชั่ว ทำจิตใจให้บริสุทธิ์" เป็นหลักในการประพฤติปฏิบัติสืบต่อกันมาอย่างต่อเนื่องในปัจจุบัน
ในโอกาสนี้สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติจะมอบธงสัญลักษณ์ "พุทธชยันตี" แก่ผู้ว่าราชการจังหวัดทุกจังหวัด สำนักงานพระพุทธศาสนาทุกจังหวัด และวัดทั้งในและต่างประเทศ เพื่อนำไปประดับในสถานที่สำคัญต่างๆ ตลอดปี เพื่อแสดงถึงการเริ่มต้นแห่งการเฉลิมฉลองวาระสำคัญนี้พร้อมกันทั่วทั้งประเทศ และมอบให้กับผู้นำทางศาสนาในระดับนานาชาติ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น